โรคเข่าเสื่อมเป็นโรคที่พบได้บ่อยในคนสูงอายุและคนอ้วน แต่อย่าได้นิ่งนอนใจเพราะก็ไม่หมายความว่าถ้าคุณไม่อ้วยแล้วจะไม่มีสิทธิเป็นโรคนี้ อาการของโรคนี้นั้นมักจะเป็นเรื้อรังตลอดชีวิต แต่ไม่มีอันตรายร้ายแรง แต่ก็ทำให้ผู้ป่วยนั้นมีอาการปวดทรมาน เดินไม่ถนัด ขาโก่ง เข่าทรุดซึ่งมีผลที่อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน วันนี้เรามาเรียนรู้เกี่ยวกับเจ้าโรคนี้กันว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร และหลังจากที่เกิดขึ้นแล้วเราควรจะทำเช่นไร

     โรคเข่าเสื่อม เป็นอาการของโรคเกิดจากการเสื่อมชำรุดหรือการสึกหรอของข้อเข่า นั่นเป็นผลมาจากการใช้งานอย่างหนัก หรือเกิดการบาดเจ็บจากการกระทบที่บริเวณต่อข้ออย่างมากมาก น้ำหนักและการเล่นกีฬาหนักๆนั้นก็มีผลต่อการเกิดโรคนี้ เมื่อเกิดอาการของโรคนี้ขึ้นจะทำให้กระดูกอ่อนที่บุอยู่ตรงบริเวณผิวข้อต่อสึกหรอ และเมื่อเป็นเช่นนั้นร่างกายจะทำการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ แต่การซ่อมแซมนั้นอาจจะไม่สมบูรณ์หรือมีปัญหาทำให้มีปุ่มกระดูกงอกรอบๆข้อต่อด้วย ปุ่มกระดูกที่งอกบางส่วนจะหักหลุดเข้าไปในข้อต่อ ทำให้ขัดขวางการเคลื่อนไหวของข้อต่อและข้อต่อมีเสียงดังเวลาเคลื่อนไหว เช่น ขณะที่งอเข่า นั่งยองๆ นั่งขัดสมาธิ นั่งพับเพียบ การเดินขึ้นลงบันได เป็นต้น

     เมื่อข้อเข่าเสื่อม ก็จะส่งผลให้กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นรอบๆ ข้อเข่ามีการอักเสบและอ่อนแอร่วมไปด้วย ทำให้เกิดอาการปวดเข่า เข่าอ่อน (เข่าทรุด) และเมื่อเป็นมากๆก็จะทำให้เกิดอาการขาโก่ง
     โรคเข่าเสื่อม มักพบในคนสูงอายุ คนอ้วน คนที่เล่นกีฬาที่มีการกระแทกของข้อเข่ารุนแรง คนที่ชอบนั่งงอเข่า หรือต้องเดินขึ้น-ลงบันไดบ่อย ผู้ที่มีข้อเข่าเสื่อมนั้นอาจจะมีอาการผิดปกติที่เข่าข้างเดียว หรือ ๒ ข้างก็ได้ จะมีการสะดุด หรือติดขัดในข้อ เนื่องจากเศษกระดูกงอกหักหลุดเข้าไปขัดขวางในข้อต่อ ซึ่งหากเป็นในผู้ป่วยที่ผู้ที่มีกล้ามเนื้อรอบๆเข่าอ่อนแรงแล้ว ก็จะมีอาการเข่าอ่อน เข่าทรุด บางครั้งอาจทำให้เกิดการพลัดตกหกล้มได้

การป้องกันโรคข้อเข่าเสื่อม

1. ควบคุมน้ำหนัก การควบคุมน้ำหนักจัดเป็นสิ่งสำคัญที่จะดูแลป้องกันไม่ให้เกิดโรคนี้ การที่เราน้ำหนักเยอะขึ้นก็หมายความว่าเข่าและข้อต่อนั้นก็ต้องทำงานหนักขึ้น ซึ่งก็เหมือนกับว่าเป็นการเร่งให้เกิดโรคนี้เร็วขึ้นนั่นเอง

2. ปรับเปลี่ยนอิริยาบถ อิริยาบถต่างๆนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญไม่น้อยกว่ากันเช่นกัน การที่เราทำสิ่งใดๆเป็นระยะเวลานานๆนั้นไม่เหมาะอย่างยิ่ง และถึงแม้ว่าจะเป็นคนที่น้ำหนักน้อยหรืออายุน้อยก็มีโอกาสที่จะเกิดโรคนี้ขึ้นได้เช่นกันหากไม่ระมัดระวังเรื่องอิริยาบท

3. เสริมสร้างกล้ามเนื้อ การมีกล้ามเนื้อที่สมบูรณ์แข็งแรงนั้นหมายถึงการเป็นผู้ที่มีสุขภาพดีในอีกนัยหนึ่ง ซึ่งเมื่อมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงสมบูรณ์แล้วภาระของอวัยวะขาและข้อเข้าจะไม่ต้องรับภาระมาก ซึ่งการมีกล้ามเนื้อที่สมบูรณ์แข็งแรงนั้นวิธีได้มาก็คือการออกกำลังกายนั่นเอง แต่การออกกำลังกายนั้นควรอยู่ในระดับพอดี หากมากเกินไปหรือหักโหมก็อาจจะเกิดการบาดเจ็บได้

4. อาหารและยา อีกสิ่งที่สามารถช่วยให้เราห่างไกลจากโรคนี้นั้นคืออาหารหรือโภชนากการนั่นเอง ควรทานอาหารที่ครบ 5 หมู่และปริมาณพอดี ด้านยานั้นก็ควรทานแต่พอดีเช่นกัน เพราะหากใช้ยาต่อกันนานๆแล้วย่อมเป็นภาระให้กับไตภายหลัง

คนชราที่มีปัญหาเรื่องขาและหัวเข่าแล้วควรจะทำเช่นไร

     เมื่อปัญหาเรื่องหัวเข่าเสื่อมเกิดขึ้นโดยเลี่ยงไม่ได้แล้วนั้น เราก็ควรดูแลตนเองต่อไป การเดินจะต้องระมัดระวังยิ่งขึ้นกว่าปกติ ในกรณีของผู้สูงอายุนั้นการรักษาให้กลับมาขยับให้ดีดังเดิมนั้นเป็นไปได้ยาก ซึ่งก็มีความจำเป็นที่จะต้องมีคนดูและเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ การเดินนั้นอาจจะใช้ไม้เท้าหรือเครื่องช่วยเดิน(Walker)เพื่อลดภาระการทำงานของหัวเข่าลงสำหรับการนั่งเองหากก็ไม่ควรนั่งอยู่ในท่าเดิมนานๆด้วย ซึ่งการลุกอาจจะหาคนช่วยพยุงหรือจะใช้เก้าอี้ปรับระดับก็ได้เช่นกัน

     พูดถึงเก้าอี้ปรับระดับก็อดไม้ได้ที่จะพูดถึงสินค้าของเรา เก้าอี้โซฟาปรับระดับ ที่มีขายในเว็บไซต์ของเรานั้นสามารถปรับได้ 3 ระดับ นั่ง นอน และลุกขึ้น ระบบปรับระดับนี้สามารถปรับได้ด้วยรีโมทคอนโทรลจึงไม่ต้องมีคนช่วยปรับระดับเก้าอี้ให้ ทำให้สะดวกสะบายต่อการลุกขึ้นไปทำธุระด้วยตนเอง และด้วยจากทางผู้ผลิตจึงได้ออกแบบให้เหมาะสมกับการลุกขึ้นยืนโดยไม่เป็นภาระให้กับขาและหัวเข่า ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย ผลิตจากวัสดุอย่างดีคุณจึงสามารถมั่นใจได้ว่า แข็งแรงทนทานได้มาตรฐาน 
-------------------------------

สอบถามและดูสินค้าตัวจริงได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 
(097)050-0961 (081)906-0650 
------------------------------- 
Line: Vsenior 
------------------------------- 
Facebook https://www.facebook.com/vsenior.vsenior 
website: http://www.vsenior.net

แผนที่ ดูตำแหน่งร้านค้าปลีกคลิก!!

จัดจำหน่ายโดยร้าน  VSENIOR

แผนที่ร้านที่จำหน่ายสินค้าของเรา