บทความ : การใช้งานรถเข็นอย่างถูกต้อง

ผู้เยี่ยมชม : 534
ลงข้อมูลเมื่อ : 11/04/2018 21:12
ตั้งแต่ 11/04/2018 ถึง 11/04/2018
1. การกางรถเข็น ใช้มือทั้งสองข้างกดลงบนที่ขอบของที่นั่งทั้งสองข้างพร้อมกัน จนกระทั่งตัวรถเข็นกางออกจนสุด แผ่นหนังที่รองนั่งจะเรียบตึงพอดี 
2. การหุบเก็บรถเข็น ใช้มือทั้งสองจับแผ่นหนังที่รองนั่ง ตรงกึ่งกลางของขอบหน้าและขอบหลัง แล้วยกแผ่นหนังที่รองนั่งขึ้น จะทำให้ตัวรถเข็นหุบเข้า 
3. การกระดกล้อเล็กของรถเข็น บริเวณใต้ที่นั่งทางด้านหลังของรถเข็นสูงจากพื้นขึ้นมาเล็กน้อย จะมีแกนเหล็กแท่งหนึ่งอยู่ข้างๆของล้อใหญ่ทางด้านในของล้อทั้งสองข้าง มีไว้สำหรับช่วยผ่อนแรงในการกระดกล้อเล็กให้ยกขึ้น โดยการเหยียบปลายแกนเหล็กแท่งนี้ให้กดลงพร้อมกับการจับรถเข็นให้หงายขึ้นเล็กน้อย จะช่วยให้ล้อเล็กของรถเข็นกระดกได้ง่ายขึ้น 
4. การใช้ห้ามล้อของรถเข็นนั่งห้ามล้อของรถเข็นนั่งเป็นส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญ ตำแหน่งของห้ามล้อจะอยู่บริเวณด้านข้างของรถเข็นใกล้กับล้อใหญ่ซึ่งจะมีอยู่ทั้งสองข้าง และมีไว้สำหรับป้องกันไม่ให้รถเข็นไหล 
   4.1 การใส่ห้ามล้อ ผลักคันโยกของห้ามล้อไปด้านหน้า เพื่อป้องกันไม่ให้รถขยับ
   4.2 การปล่อยห้ามล้อ ดึงคันโยกของห้ามล้อมาด้านหลัง เพื่อให้รถขยับได้ 
5. การเข็นรถเข็นนั่งลงพื้นที่ต่างระดับ
   5.1 การเข็นถอยหลังลงพื้นที่ต่างระดับ
  5.1.1 นำรถเข็นถอยหลังมาจนล้อใหญ่อยู่ที่ขอบทางต่างระดับ
  5.1.2 นำรถเข็นถอยหลังโดยให้ล้อใหญ่ลงจากทางต่างระดับอย่างช้าๆ
  5.1.3 นำรถเข็นถอยหลังต่อไปพร้อมกับกระดกล้อเล็กขึ้น จนกว่าที่วางเท้าของรถเข็นจะพ้นขอบทางต่างระดับ จึงค่อยๆวางล้อเล็กลงอย่างช้าๆ 
   5.2 การเข็นเดินหน้าลงพื้นที่ต่างระดับ
  5.2.1 นำรถเข็นมาอยู่ในตำแหน่งที่ล้อเล็กอยู่ใกล้ขอบทางต่างระดับ แล้วกระดกล้อเล็กขึ้น
  5.2.2 เข็นรถเข็นเดินหน้าต่อไปด้วยล้อหลัง จนถึงขอบทางต่างระดับจึงค่อยๆปล่อยล้อหลังลงจากทางต่างระดับอย่างช้าๆ โดยต้องให้ล้อเล็กกระดกขึ้นเอาไว้
  5.2.3 วางล้อหน้าลงบนพื้นอย่างช้าๆ 
6. การเข็นรถเข็นนั่งขึ้นพื้นที่ต่างระดับ
   6.1 การเข็นถอยหลังขึ้นพื้นที่ต่างระดับ
  6.1.1 นำรถเข็นมาอยู่ในตำแหน่งที่ล้อใหญ่อยู่ชิดขอบทางต่างระดับ แล้วกระดกล้อเล็กขึ้น
  6.1.2 ออกแรงดึงรถเข็นถอยหลังขึ้นไปบนทางต่างระดับ โดยที่รถเข็นต้องอยู่ในลักษณะกระดกล้อเล็กขึ้นตลอดเวลา
  6.2.3 ค่อยๆวางล้อหน้าลงบนพื้นอย่างช้าๆ 
6.2 การเข็นเดินหน้าขึ้นทางต่างระดับ
  6.2.1 นำรถเข็นมาอยู่ในตำแหน่งหันหน้าเข้าหาทางต่างระดับ แล้วกระดกล้อเล็กขึ้น
  6.2.2 เข็นรถเข็นเดินหน้าต่อไปด้วยล้อใหญ่ จนล้อใหญ่อยู่ชิดขอบทางต่างระดับและล้อเล็กขึ้นไปวางอยู่บนทางต่างระดับ
  6.2.3 ยกรถเข็นไปด้านหน้าเพื่อให้ล้อใหญ่ขึ้นไปอยู่บนทางต่างระดับ 
7. การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยขึ้น – ลงบันไดโดยใช้รถเข็นนั่ง
   7.1 การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยลงบันไดโดยใช้รถเข็นนั่ง
  7.1.1 ต้องใช้คนยกสองคนที่มีร่างกายแข็งแรง คนหนึ่งยืนอยู่ด้านหลังรถเข็นมือทั้งสองจับที่มือจับของรถเข็น อีกคนหนึ่งยืนอยู่ด้านหน้ารถเข็นมือทั้งสองจับบริเวณเหนือที่วางเท้าของรถเข็นจากนั้นเข็นรถเข็นที่มีผู้ป่วยนั่งอยู่ไปชิดบันไดขั้นบนสุด เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการยกเลื่อนลงบันได
  7.1.2 กระดกรถเข็นให้ล้อเล็กยกขึ้นทำมุมประมาณ 45 องศา แล้วค่อยๆ ผ่อนให้รถเข็นเลื่อนลงบันไดทีละขั้นอย่างช้าๆ
     ต้องกระทำด้วยความระมัดระวัง ผู้ที่อยู่ด้านบนต้องจับให้มั่นคง ส่วนผู้ที่อยู่ด้านล่างต้องช่วยรับน้ำหนักไว้และช่วยป้องกันไม่ให้รถเข็นเลื่อนลงบันไดเร็วเกินไป ทั้งสองคนต้องออกแรงให้ได้จังหวะสอดคล้องกัน โดยตกลงกันว่าใครจะเป็นผู้ให้จังหวะในการยก
   7.2. การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยขึ้นบันไดโดยใช้รถเข็นนั่ง
    7.2.1 ต้องใช้คนยกสองคนที่มีร่างกายแข็งแรง คนหนึ่งยืนอยู่ด้านหลังรถเข็นมือทั้งสองจับที่มือจับของรถเข็น อีกคนหนึ่งยืนอยู่ด้านหน้ารถเข็นมือทั้งสองจับบริเวณเหนือที่วางเท้าของรถเข็นจากนั้นเข็นรถเข็นที่มีผู้ป่วยนั่งอยู่ถอยหลังไปชิดบันได โดยให้ล้อใหญ่อยู่ติดกับบันไดขั้นล่างสุด เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการยกเลื่อนขึ้นบันได แล้วจึงกระดกรถเข็นให้ล้อเล็กยกขึ้นทำมุมประมาณ 45 องศา
  7.2.3 ผู้ปฏิบัติทั้งสองคนออกแรงพร้อมกันยกรถเข็นให้เลื่อนขึ้นบันไดไปทีละขั้น โดยตกลงกันว่าใครจะเป็นผู้ให้จังหวะในการยก
 ต้องกระทำด้วยความระมัดระวัง ผู้ปฏิบัติที่อยู่ด้านบนต้องจับให้แน่นและช่วยดึงรถเข็นไว้ ส่วนผู้ปฏิบัติที่อยู่ด้านล่างต้องช่วยรับน้ำหนักไว้และช่วยป้องกันไม่ให้รถเข็นเลื่อนลงบันได ทั้งสองคนต้องออกแรงให้ได้จังหวะสอดคล้องกัน

     รถเข็นนั้นถือเป็นอุปกรณ์สำคัญสำหรับผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องกล้ามเนื้อและกระดูก บางคนที่สามารถขยับแขนหรือมีกล้ามเนื้อท่อนบนที่แข็งแรงก็สามารถขยับรถเข็นได้ด้วยตัวเองบ้าง คนที่ไม่สามารถใช้งานร่างกายได้ไหวนั้นก็ให้ผู้ดูแลเป็นผู้ที่เข็นให้บ้าง แต่เมื่อเราจำเป็นต้องดูแลท่านเหล่านั้นแล้วนั้นเราจะต้องทำอย่างไรกันล่ะถึงจะถูกต้อง นี่คือคำถามของเพื่อนๆบางคน วันนี้เราจะมาทำความรู้จักเกี่ยวกับวิธีการใช้งานรถเข็นอย่างถูกต้องกัน 

     1. รถเข็นแบบพับได้นั้น รถเข็นแบบพับได้เป็นอุปกรณ์ที่สามารถจัดเก็บได้สะดวกและมีความนิยมมากกว่ารถเข็ยแบบปกติ ทว่ารถเข็นแบบพับเองก็อาจจะทำให้เกิดอันตรายขึ้นเช่นกันหากผู้ที่นำมาใช้ไม่มีความระมัดระวัง การใช้งานรถเข็นแบบพับนั้นจะต้องกระทำดังนี้ การกางรถเข็นต้องใช้มือทั้งสองข้างกดลงบนที่ขอบของที่นั่งทั้งสองข้างพร้อมๆกัน และจะต้องกางตัวรถเข็นออกจนสุด ซึ่งตรงนี้สังเกตได้จากจากแผ่นหนังที่รองนั่งนั้นจะเรียบตึงพอดิบพอดี ข้อนี้เป็นข้อควรใส่ใจที่สุด หากเลินเล่ออาจเกิดอันตรายแก่ผู้ที่ใช้งานได้ 

     2. การเข็นรถข้ามพื้นลูกระนาด บริเวณใต้ที่นั่งทางด้านหลังของรถเข็นนั้นจะมีแกนเหล็กแท่งหนึ่งอยู่ข้างๆของล้อใหญ่ แกนเหล็กนี้มีไว้สำหรับช่วยผ่อนแรงในการยกล้อเล็กของรถเข็นให้เงยขึ้นได้ ให้เราออกแรงเหยียบปลายแกนเหล็กแท่งนี้ พร้อมๆกับเงยรถเข็นขึ้นจะสามารถผ่านลูกระนาดได้อย่างสบายๆ 

     4. การใช้ห้ามล้อ/เบรคของรถเข็น ห้ามล้อ/เบรคของรถเข็นนั้นเป็นอุปกรณ์ส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง มีไว้สำหรับป้องกันไม่ให้รถเข็นไหล ป้องกันอันตรายซึ่งอาจจะทำให้ผู้ใช้งานบาดเจ็บอย่างไม่คาดฝัน ก่อนที่จะใช้งานนั้นควรตรวจสอบให้ดีก่อน และเมื่อชำรุดให้ดำเนินการซ่อมแซมแก้ไขในทันที วิธีการใช้งานนั้น เพียงแค่คุณผลักคันโยกของห้ามล้อไปด้านหน้าเท่านั้นรถเข็นก็จะไม่สามารถขยับได้แล้ว

     5. การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่เคลื่อนไหวไม่ได้นั้น อย่าพยายามเอาตัวผู้ป่วยลงด้วยตัวคนเดียวเด็ดขาดเพราะเป็นอันตรายต่อผู้ป่วย ควรมีคนคอยช่วยเหลืออีกคนหนึ่งเป็นอย่างน้อย

     เพียงเท่านี้ท่านก็สามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยแล้ว

ด้วยความปรารถนาดีจาก VSENIOR

 


จัดจำหน่ายโดยร้าน  VSENIOR

แผนที่ร้านที่จำหน่ายสินค้าของเรา
 


ทุกวันทำการ 8.00-19.30 น. 096-926-2170

สมัครรับข่าวสาร